วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เรื่องเล็กๆ แต่ใหญ่เสมอ

เราไม่ได้เสียดายกับเวลาที่สูญเสีย ไปกับการได้เรียนรู้กับความผูกพันครั้งนั้นนะ แต่เราไม่ปฏิเสธที่จะบอกว่าเสียใจที่เรารักษามิตรภาพไว้ไม่ได้.. ตำแหน่งที่เรายืนมันต่างออกไป เราอาจจะยืนอยู่พื้นดินเดียวกัน แต่เรายืนอยู่บนหินคนละก้อน พื้นที่บนหิน ถ้าไม่อยากยืนอยู่อย่างลำพัง ก้ออาจจะมีพื้นที่หลงเหลืออยู่บ้างแต่เป็นที่สำหรับคนที่เราอยากให้มายืน ข้างกันเท่านั้น..

จากที่หันหน้าเข้าหากัน..เราต่างก้อหันหลังให้กัน และต่างคนต่างเดินไปคนละทาง.. ไม่ดูแลหนทางและอุปสรรคของกันและกันเหมือนเคย..

เราคงล้ำเส้นมากเกินไป เพื่อน พี่ น้อง ทุกตำแหน่งมีขอบเขตของมัน ยังไงซะ ตำแหน่งที่ชัดเจนของเราก้อเริ่มต้นมาจากคำว่า คนอื่น

จากคนอื่นเปลี่ยนเป็นคนรู้จัก และพัฒนาจนเป็นเพื่อน จากเพื่อนธรรมดาๆ เป็นเพื่อนสนิท ถ้าวันนี้มันจะย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นอีกครั้ง มันคงไม่แปลกอะไร

คนอื่น สำหรับเพือนรัก

ฟังแล้วเจ็บหัวใจ หัวใจมันเย็นๆ ชาๆ เหมือนอากาศตอนนี้เลย

เราจะทำอะไรได้อีก เส้นด้ายระหว่างเพื่อนที่ฉันและเธอถือปลายมันคนละด้าน มันกำลังจะขาด หรือ มันขาดไปแล้ว
สำหรับฉันยังคงถือปลายอีกข้างไว้เหมือนเดิม เพื่อรอให้เธอมาต่อ ฉันจะรอ แม้ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน

ฉันไม่อาจกลับไปแก้ไขข้อผิดพลาดที่ฉันเคยก่อ เรื่องราวที่อาจเป็นต้นเหตให้เธอเหนื่อยหน่าย เพราะทุกอย่างที่ทำที่คิดของฉันล้วนเริ่มต้นมาจากความรัก ความห่วงใย ที่ฉันมีเท่าที่จะมอบให้คนๆนึงที่เรียกว่าเพื่อนรักได้

คำทุกคำที่ฉันเคยบอกเธอไว้

"ฉันจะไม่มีวันจากเธอไปไหน นอกจากเธอจะไม่ต้องการฉันเอง"

วันนี้ฉันก็ยังยืนยันคำนั้น

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ต้นไม้ขาดน้ำ ก็ไม่ต่างกับ มิตรภาพที่ขาดการเอาใจใส่

วันนี้ฉันนั่งนิ่งๆ คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เหลือบมองต้นไม้ที่ฉันปลูก
กับมือแห้งเหี่ยวเฉาตาย

ครั้งนึง ฉันรู้สึกเบื่อๆ เลยไปเดินตลาดต้นไม้ เจอต้นราตรีที่อยากได้มานาน ฉันชอบเพราะกลิ่นมันหอม

กลับมาถึงบ้าน ฉันลงมือปลูกมันเอง รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย เอาใจใส่เพราะดอกของมันยังส่งกลิ่นหอม

นานวัน เวลาผ่านไป ดอกราตรีร่วงหล่น เหลือแต่ใบ ฉันเริ่มสนใจมันน้อยลง การรดน้ำ พรวนดินค่อยๆ ห่างหายไปเรื่อยๆ บวกกับฉันมีสิ่งใหม่ให้สนใจมากกว่า จนหลงลืมที่จะหันมามองต้นราตรีต้นนั้น

วันนี้ต้นราตรี เหี่ยวเฉา ใบร่วง ไม่มีชีวิตอีกแล้ว มองเจ้าต้นราตรีแล้วใจหาย ทำไมฉันถึงละเลยไม่ใส่ใจมันนะ

นึกถึงตัวเองว่าฉันไม่อยากเป็นเหมือนต้นราตรีที่ขาดการรดน้ำ จนวันนึงต้องเหี่ยวเฉาตาย

"ถ้าอยากให้ใคร คิดถึงเรา เราต้อง คิดถึงเขาก่อน"
"ถ้าอยากได้รอยยิ้มจากใคร เราก็ต้องยิ้มให้เขาก่อน"
"ถ้าอยากได้รับความจริงใจ จากใคร เราก็ต้องให้ความจริงใจกับเ
ขาก่อน"

และ

" ถ้าไม่อยากให้ใครลืมเรา ก็อย่าละเลยลืมเขาก่อน"



ฉันเคยมีเพื่อนรักสมัยม.ต้น เราทะเลาะกันจนรักกัน แปลกดีเพื่อนยิ่งทะเลาะ มิตรภาพยิ่งเพิ่มพูน ฉันต้องแยกย้ายจากเพื่อนเมื่อจบม.ต้น เพราะฉันย้ายโรงเรียน ส่วนเพื่อนย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น

แต่ฉันกับเพื่อนไม่เคยที่จะไม่คิดถึงกัน เราติดต่อกันเสมอ ด้วยจดหมาย โทรศัพท์ เวลาผ่านไปฉันเข้าเรียนมหาวิทยาลัย มีเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ เรียนหนักขึ้น ฉันเริ่มละเลยเพื่อนไปทีละนิด

เพื่อนโทรมา ฉันบอกว่ายุ่งแล้วจะโทรกลับ แต่ฉันกลับลืม ละเลยไปว่าเพื่อนมีเรื่องทุกข์ใจ อยากปรึกษาฉันรึป่าว
เวลานั้นฉันคิดถึงแต่ตัวเอง กว่าจะคิดได้ เพื่อนคนนี้ก็หายไปจากชีวิตฉันแล้ว

ฉันเสียใจ และเพื่อนคงรู้สึกเสียใจยิ่งกว่าฉัน.....
วันนั้นฉันปล่อยให้เพื่อนเป็นเหมือนต้นราตรีที่ขาดการรดน้ำ ใส่ปุ๋ย พรวนดิน

จากวันนั้นฉันบอกตัวเองเสมอว่า ฉันจะรักษาเพื่อนที่ฉันรัก จะหมั่นรดน้ำ เอาใจใส่ ให้เหมือนต้นไม้ ที่เติบโต แผ่กิ่งก้านสาขา ไม่ให้เหี่ยวเฉาตายง่ายๆ

และ.... ตัวฉัน

ก็ไม่อยากเป็นเหมือน ต้นราตรีต้นนั้น.....




การปลูกต้นไม้ ถ้าเราดูแลเอาใจใส่ดี ต้นไม้ก็จะเจริญงอกงาม
ไม่ต่างกับเพื่อน ดูแลดี เอาใจใส่ เข้าใจ ความสัมพันธ์ก็งอกงาม....
ดอกมิตรภาพ ก็จะบานไปแสนนาน

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

รักของฉัน คือ เธอ

เธอ คือใครกันนะ
เธอ มีหลายคนทีเดียว
เธอ คนนั้น คือ พ่อ แม่
เธอ คนนั้น คือ พี่สาว พี่ชาย
เธอ คนนั้น คือ เพื่อนสนิท
เธอ คนนั้น คือ เพื่อน
เธอ คนนั้น คือ สัตว์เลี้ยงที่บ้าน

ฉันรักเธอ ที่กล่าวมาทั้งหมด รักแบบไม่มีเงื่อนไข
รักเพราะอยากรัก

บางครั้ง เพราะรักของฉัน ก็ทำให้เธอต้องลำบาก
เพราะรักของฉัน บางครั้งก็กลายเป็นหนาม
แต่ฉันรักเธอ และหวังดี อยากให้เธอมีความสุข
อยากให้เธอยิ้มได้

คนเอาแต่ใจ ขี้งอนอย่างฉัน บางครั้งแสดงออกมาไม่ตรงกับใจเท่ารัย
แต่ฉันรักเธอนะ

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

รวบสิ่งสำหรับมือใหม่อย่าง จขบ




































































































Cast on --- ขึ้นห่วง เริ่มต้น







Bind off --- ปลดห่วง จบงาน







Stitch --- ห่วง







Stockinette stitch (St st) --- ลายสต๊อกกิ้







(RS) --- Right Side ด้านถูก ก็ด้านที่เราโชว์ลายถัก







(WS) --- Wrong Side ด้านผิด ด้านที่ลายถักสวยน้อยกว่า เราเลยไม่โชว์ลายถักด้านนี้ค่ะ







circular needle --- ไม้นิตวงกลม







Stitch markers --- ตัวคั่นห่วง หาได้ตามร้านทั่วไป แต่ใช้ไหมเหลือๆ แทนก็ได้ ประหยัดดี







Stitch holders --- ไม้พักห่วง







sts --- ห่วงถัก ย่อมาจาก stitchesknit --- ถักนิตpurl --- ถักเพิร์ล

วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เสื้อคลุมนิตติ้งผูกด้านหน้า


เสื้อคลุมนิตติ้งตัวนี้ใช้เวลาทำอยู่ 1 อาทิตย์เสร็จค่ะ เป็นตัวแรกที่เริ่มทำเสื้อนิตติ้งเลย
อุปกรณ์
  1. ไหมพรมดาหลา 2 กลุ่ม
  2. ไม้นิตวงกลมเบอร์ 5 ยาว 80 cm

ขึ้นห่วง 74 ห่วง (13,12,24,12,13)

ถักลายลูกฟูก 6 แถว

แถวที่ 1 k2,p2,..... จนจบแถว

แถวที่ 2 p2,k2,...... จนจบแถว

(แถวที่ 4-6 ถักสลับตามแถวที่ 1 กับ 2)

แถวที่ 7 k13(คั่นโดยใช้ห่วง),k12(คั่นห่วง),k24(คั่นห่วง),k12(คั่นห่วง),k13(คั่นห่วง)

แถวที่ 8 k5,p......,k5

แถวที่ 9 k ทั้งแถว โดยการเพิ่มห่วงทั้งด้านหน้าและหลังตรงที่เราคั่นห่วงไว้

(ถักซ้ำเหมือนแถว 7,8 ถักไปจนได้ประมาณแถวที่ 40)

แถวที่ 41 ถักนิตเชื่อมช่วงหน้ากับช่วงหลัง เว้นช่วงแขนพักไว้ก่อน

แถวที่ 42 k5,p.....,k5

แถวที่ 43 k ทั้งแถว

(ถักซ้ำแถวที่ 42,43 จนถึงแถวที่ 51)

แถวที่ 52 k5,เพิ่มห่วง,p….,เพิ่มห่วง,k5

แถวที่ 53 k ทั้งแถว

(ถักซ้ำแถวที่ 52,53 จนให้ถึงแถวที่ 61)

แถวที่ 62 k5,เพิ่มห่วง,k….,เพิ่มห่วง,k5

แถวที่ 63 k ทั้งแถว

(ถักซ้ำแถวที่ 62,63 จนถึงแถวที่ 72 ปิดงานค่ะ)

ช่วงตัวเสร็จแล้วกลับมาถักช่วงแขนต่อ ความยาวตามที่เราต้องการ